Wallflowers Upstairs

Wallflowers Upstairs คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังเข้าไปในสวนแห่งความลับเมื่อคุณขึ้นบันไดไม้เอี๊ยดที่นำไปสู่บาร์บนชั้นดาดฟ้าสไตล์ชนบทแห่งนี้ ผ่านเขาวงกตที่มีต้นไม้แขวนอยู่ โคมไฟระย้าหลอดดอกไม้ ผนังอิฐเปลือย ไฟนางฟ้า และบันไดไม้ คุณจะได้พบกับอาหารนานาชาติและเครื่องดื่มค็อกเทลในธีม Garden of Eden

Wallflowers Upstairs New Hang-Out Place in Bangkok’s Old Town

Wallflowers Upstairs จากร้านดอกไม้สุดฮิปในตรอกซอกซอยเล็ก ๆ บนย่านเก่าเยาวราช ณ วันนี้ Oneday Wallflowers ได้ขยับขยายพื้นที่สังสรรค์แห่งใหม่ให้คนกรุงเทพฯ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิลล์ ชมทิวทัศน์ยามเย็นของวงเวียน 22 กรกฎาคม ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก ตัดกับท้องฟ้าสีละมุน ไปพร้อม ๆ กับทานอาหารและดริงก์เครื่องดื่มเมนูโปรดที่ Wallflowers Upstairs (The Grounds of Wallflowers) ร้านอาหารและรูฟท็อปบาร์ ของ Oneday Wallflowers อีกหนึ่งผลงานการออกแบบและตกแต่งสุดไฮไลท์ของ คุณลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกำพล ผู้เป็นเจ้าของร้านและสถาปนิกชื่อดังของไทยที่เคยสร้างความประทับใจไว้กับ Casa Lapin หรือคาเฟ่ Wallflowers Cafe มาแล้วนั่นเอง

รูฟท็อปบาร์แห่งนี้ต่อยอดไอเดียมาจากงาน China Town Show Case เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีทีเดียว จึงออกแบบโครงสร้างในส่วนของบันไดเวียนกลางอาคารให้เป็นทางขึ้นไปสู่ชั้นดาดฟ้า อันเป็นที่มาของชื่อ Wallflowers Upstairs

เนื่องจากย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในฐานะแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน บาร์เปิดใหม่ที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ได้ช่วยยกระดับค็อกเทลในท้องถิ่น ในบรรดาร้านเปิดใหม่ที่โดดเด่นอย่าง Wallflowers Upstairs ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2561 ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการดื่มเพื่อสังสรรค์และการรับประทานอาหารแบบผ่อนคลาย ท่ามกลางสุนทรียะแบบย้อนยุคสไตล์ชนบทของดาดฟ้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่บนยอดตึกแถวสไตล์วินเทจ Wallflowers Upstairs เป็นสาขาหนึ่งของ Wallflowers Cafe ยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในชั้นอาคารพาณิชย์ด้านล่าง และร้านขายดอกไม้ริมถนนแบบดั้งเดิม Wallflowers Upstairs นำเสนอความสมดุลที่น่าดึงดูดใจของความหรูหราแบบสบายๆ ควบคู่ไปกับค็อกเทลชั้นเลิศและการรับประทานอาหารแบบสบายๆ

เข้าถึงได้โดยใช้บันไดเวียนเหล็กภายใน พื้นที่ภายในและบนชั้นดาดฟ้าได้รับการรื้อออกอย่างระมัดระวังเพื่อเผยให้เห็นอิฐดิบ พื้นไม้ เสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว จากบนดาดฟ้า ทิวทัศน์ของอาคารและตรอกซอกซอยในบริเวณใกล้เคียงอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ที่บาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดี แขกสามารถสั่งค็อกเทลซิกเนเจอร์จากรายการ ซึ่งรังสรรค์โดยเน้นไปที่รสชาติผลไม้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธีม “สวน” บาร์เทนเดอร์ได้สร้างสรรค์ผลไม้และสมุนไพรสดใหม่ในท้องถิ่น เช่น Rosy Straight Blush ซึ่งเป็นส่วนผสมของวอดก้า อะเพรอล แตงโม เสาวรส น้ำส้มยูซุ และน้ำเชื่อมวานิลลา ตัวเลือกเครื่องดื่มอื่นๆ ได้แก่ ค็อกเทลไม่มีแอลกอฮอล์ ไวน์ และเบียร์ ในขณะเดียวกัน เมนูอาหารก็มีให้เลือกทั้งอาหารนานาชาติและอาหารไทย ทั้งอาหารจานเดียว จานเดียว และของว่างในบาร์

Wallflowers Upstairs เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น. ปิดหลังเที่ยงคืน

Greenery Rooftop

Wallflowers Upstairs เป็นรูฟท็อปบาร์บรรยากาศสบาย ๆ ที่มีการออกแบบพื้นที่นั่งชิลล์เอาท์ถึง 2 โซน ทั้งฝั่งที่เป็นสวนสวยสไตล์ Old Rustic สุดร่มรื่น ตามมาด้วยฝั่งเห็นวิวตึกรามบ้านช่องสุดคลาสสิกของย่านนานาเยาวราช มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ และของตกแต่งสไตล์วินเทจ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หวาย เก้าอี้ไม้ โต๊ะกลม ไฟส้ม ไฟประดับ ห้องกระจก ประดับประดามุมต่าง ๆ ด้วยไฟสีส้มนวลตา สร้างความโรแมนติกไปพร้อม ๆ กับความชิลล์ได้ในคราวเดียว

Wallflowers Bar

เสน่ห์ของ Wallflowers Upstairs อยู่ที่การเป็นแหล่งแฮงเอาต์สไตล์รูฟท็อปแห่งแรกของซอยนานาเยาวราช ตามมาด้วยความหลากหลายของเครื่องดื่ม ที่พร้อมเสิร์ฟให้บริการทั้งไวน์ ค็อกเทล เบียร์ สปิริต และการตกแต่งแนวสวนดอกไม้ที่ช่วยเสริมบรรยากาศการชิลล์เอาต์ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับมาแฮงเอาต์ นั่งรับลมสบาย ๆ ถ่ายรูป นั่งดริงก์เครื่องดื่มแก้วโปรด แล้วทานอาหารอร่อย ๆ กัน

Eat & Drinks

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ภายใต้การดูแลของ คุณเริงฤทธิ์ เทพารักษ์ ซึ่งเป็นทั้งเชฟและบาร์เทนเดอร์ ครีเอทเมนูต่าง ๆ ให้กับทางร้าน โดยจะเน้นไปที่อาหารทานเล่นหรืออาหารจานเดียวแบบทานง่ายสไตล์ฟิวชั่น ไม่หนักท้องจนเกินไปนัก โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นวัตถุดิบคุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ แฮม เนื้อ ฯลฯ มาประยุกต์รสชาติให้ได้กลิ่นอายของความเป็นไทย ให้ทานได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่ French Fries Sauteed (160 บาท) เฟรนช์ฟรายส์ปรุงรสที่สร้างความแตกต่างด้วยการนำเฟรนช์ฟรายส์ที่ทอดแล้วไปคลุกเนย โรยเกลือ โรยสมุนไพร ใส่กระเทียม และท็อปด้วยพาเมซานชีส ทำให้เฟรนช์ฟรายส์มีรสกลมกล่อมมากขึ้น

ตามมาด้วยเมนูทานเล่นสไตล์ตะวันตกอีกสักจานกับ Prosciutto San Daniele Italy 18 Months (280 บาท) พาร์มาแฮมที่ดรายเอจเป็นเวลา 18 เดือน ได้รสเค็มกำลังดี ตัดรสชาติด้วยผักดองที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน

ส่วนใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นต้องลอง Kobe Beef Tataki (380 บาท) โดยเมนูนี้เป็นการทวิสต์รสชาติระหว่างอาหารตะวันออกกับอาหารสไตล์ตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน เนื้อโกเบหมักนุ่มละมุน ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสสูตรพิเศษ

ก่อนจะปิดท้ายด้วยอาหารไทย เมนูข้าวแสนอร่อยอย่าง Rice Scallop Pistachio Mix Berry (280 บาท) ข้าวผัดที่นำไปผัดคลุกเคล้ากับเบอร์รี่ ถั่วพิตาชิโอ พริกแห้ง และหอยเชลล์ ซึ่งข้าวที่ผัดนั้นมีลักษณะเป็นเม็ดไม่นิ่มจนเกินไปตามสไตล์ข้าวผัดจีน ปรุงรสเข้มข้น ทานแล้วไม่เลี่ยน

สำหรับเมนูเครื่องดื่ม มีให้เลือกดื่มทั้งแบบผสมแอลกอฮอลล์ และไม่ผสมแอลกอฮอลล์ ขึ้นชื่อที่สุดคงหนีไม่พ้นเมนูค็อกเทลที่เน้นดื่มง่าย ในแนว Fruity Cocktail ที่มีส่วนผสมของผลไม้กลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น ซิกเนเจอร์เมนูที่แนะนำให้ลองสั่ง ได้แก่ Joseph (280 บาท) แก้วนี้มีส่วนผสมของ Port Wine, Spicy Rum, Cointreau และผลไม้ตระกูลเกรปฟรุ๊ตได้แก่ ส้ม เลมอน ลิ้นจี่ ทับทิม สตรอเบอร์รี ที่ช่วยเสริมรสชาติและกลิ่นหอมสดชื่น

หากใครไม่ถนัดดื่มแอลกอฮอลล์อาจสั่งเป็นในลักษณะของเมนูม็อกเทล Upstairs (160 บาท) ที่เบสรสชาติด้วยน้ำส้มและน้ำเสาวรสคั้นสด ดื่มแล้วช่วยรีเฟรชร่างกายระหว่างทานอาหารมื้อค่ำได้เป็นอย่างดี Wallflowers Upstairs

บทความที่น่าสนใจ